ความสุขของชีวิต มันขึ้นอยู่กับเวลาและโอกาสของชีวิต

ความสุขของชีวิต มันขึ้นอยู่กับเวลาและโอกาสของชีวิต
……………………………………………………….……………………….
ผมเชื่อว่าเราทุกคนเกิดมาเพื่อที่จะ “เป็น” อะไรดีๆ สักอย่าง
เราเกิดมาพร้อมกับความถนัด และความสามารถเฉพาะตัวที่แตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล
อยู่ที่ว่าเราจะตั้งใจค้นหาเพื่อค้นพบสิ่งที่เราชอบ ทำได้ดี โดดเด่น เป็นที่ยอมรับมากน้อยเพียงใด
และเมื่อค้นพบแล้วเราเลือกที่จะเอาดี และใฝ่หาโอกาสให้ตัวเองได้ “เป็น” ในสิ่งนั้นหรือไม่
แต่เชื่อเถอะว่าถ้าคุณได้ค้นพบสิ่งที่คุณชอบอย่างแท้จริงแล้วนั้นนับเป็น “ของขวัญที่ยิ่งใหญ่แห่งชีวิต” เลยทีเดียว
……………………………………………………….……………………….
- คุณจะมีความสุขในสิ่งที่ทำ มีความคิดสร้างสรรค์ต่อยอดอย่างไม่รู้จบ และรู้สึกภาคภูมิใจในตัวเองที่กล้าตัดสินใจเลือก ทำในสิ่งที่เรา ชอบ ผมคิดว่าตัวเองเป็นอีกคนหนึ่งที่ได้ค้นพบ “ของขวัญทิ่ยิ่งใหญ่แห่งชีวิต”
……………………………………………………….……………………….
- ตั้งแต่เด็ก ๆ มาผมเป็นคนเรียนไม่เก่งเอาซะเลย พูดง่ายๆ ว่าความรู้ไม่มีอะไรเข้าในสมองมาเลย วิ่งเล่นแบบเด็กๆ ไปวันๆไม่คิด ไม่ฝัน ไม่รู้อะไร เรียนก็ได้ลำดับรองบ๊วย หรือที่สุดท้ายของห้อง จนจบ ป.6 ก็ยังเหมือนเดิม......กินบ๊วยมาตลอด
……………………………………………………….……………………….
-แต่เมื่อเข้า ม.1 ก็ไม่ได้พัฒนาอะไรดีขึ้น เรียนพิเศษก็แล้ว อ่านหนังสือก็แล้ว สุดท้ายไปเล่นบาส ตีแบต เตะบอล สนุกกว่า
จนได้เป็นนักกีฬาแบตมินตันของโรงเรียน (เอาดีด้านนี้ละกัน ไหนๆก็เรียนไม่เก่งละ) พอถึง(ม.2) อายุ 13 ปี ได้เรียนแผนการงานพื้นฐาน อาชีพ" (เป็นแผนของห้องบ็วยได้เรียน555) (ซึ่งคนอื่นเค้าเรียน วิทย์-คณิต บลาๆๆ ) แต่โชคชะตา ลิขิตมาแล้ว คือ ผมได้เรียนรู้งานด้าน เขียนแบบ ออกแบบ, งานช่างต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นงานช่างไฟฟ้า, งานโลหะ, งานพลาสติก, ช่างหนัง ซึ่งพอเราเรียนเราก็จะรู้ว่า เราชอบ อะไรในชีวิตและอยู่กับมันแล้วมีความสุข สุดท้ายวันเรียนจบ ม.3 ได้ขึ้นไปรับใบประกาศนียบัตรจาก ผอ. ว่าด้วยเรียนดีเด่น คะแนนสูงสุด วิชางานพลาสติก (เฮ้ย! ได้ด้วยหรอ) คือไม่รู้ตัวมาก่อนจนเค้าเรียกชื่อนั่นแหละ คือ ความภาคภูมิใจในตัวเองตั้งแต่เกิดมาในชีวิต!!! และเป็นของขวัญแรกของชีวิตของผม
……………………………………………………….……………………….
และเมื่อ จบม.3 เอาละซิ จะเรียนต่อ ม.4 ก็ไม่ไหว แต่คิดไว้ในใจว่าไปสายอาชีพหรือเรียนช่างแน่นอน โชคดีอีกข้อคือ ที่บ้านให้เลือกเอง
ตามใจ คุณแม่พูดอยู่คำนึงว่า "อยากเรียนอะไรก็เรียน แต่เอาให้จบละกัน" นี่คือ ของขวัญที่ได้รับของขวัญชิ้นที่ 2 ของชีวิต คือ "ที่ไม่มีใครบังคับให้เรียนในสิ่งที่เราไม่ชอบ"
……………………………………………………….……………………….
เมื่อได้เลือกว่าเรียนช่างแล้ว แต่เรียนช่างๆอะไรดีละ ก็ได้ไปเจอรุ่นพี่ที่แนะนำที่ดี ว่าระหว่างตัวเลขกับวาดรูปชอบอะไร! คำตอบนี้ ไม่ต้องคิดมากเลย เลือกวาดรูปละครับ งั้นเข้าแผนกช่างเทคนิคสถาปัตยกรรมที่วิทยาลัยเทคนิคราชสิทธาราม ซึ่งตอนนั้นคิดว่า มันคืออะไร? พอได้เรียน ได้เขียน ได้ออกแบบ ได้ทำผลที่ได้รับ คือได้ เกรดเฉลี่ย 3.00 ขึ้นทุกเทอม (เพราะงานมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับคะแนนสอบ งานมันขึ้นอยู่กับสมอง และฝีมือ) และ "เรารักและชอบในสิ่งที่ได้ทำอีกด้วยทำแล้วมีความสุข" นี่ละ คือของขวัญชิ้นที่ 3 ของชีวิตผม
……………………………………………………….……………………….
สำหรับผมแล้ว “ช่าง” เป็นงานที่สนุกได้คิด ได้ลอง ได้สร้าง สิ่งที่เราคิด เราฝัน อยู่ในสมองให้ออกมาสู่ โลกของความจริงได้ใช้ความ สามารถ หลายอย่างในการทำงาน และ รร.นี้เป็นโรงเรียนแห่งแรกที่ทำให้ผมเป็นหรือมีอยู่ทุกๆวันนี้
……………………………………………………….……………………….
พออายุ 18 ปี ก็จบ ปวช. และด้วยไม่รู้ว่าจะไปเรียนที่ไหน ก็ได้ต่อ ปวส 1. แต่เมื่อเรียนแล้วพอดีมีเรื่องและตอนนั้นความรู้สึกของผม
คือ อิ่มตัว อยากหาที่ที่สอนให้เราก้าวหน้ากว่านี้ จึงลาออก!
……………………………………………………….……………………….
แต่สิ่งที่ติดตัวตอนนั้น คือ วุฒิปวช.3หรือม.6 กับ ฝีมือความรู้ความสามารถที่เราได้จากการไปฝึกงานตอน ปวช. 3 ได้ความรู้ด้าน เขียนแบบด้วย Autocad,3d จากพี่ๆให้คำแนะนำแต่ก็อาศัยการลักจำ ไม่รู้ก็ถาม ไม่ได้มาสอนผมแบบจริงๆจัง ตอนนั้นไม่มี รร.สอน comเลยปี39 ถ้าตอนนั้น ถ้ามีที่เรียนผมจะไม่เสียดายเงินเลย เพราะกว่าคนๆนั้นจะลองผิดลองถูกกว่าจะรู้ กว่าจะศึกษา กว่าจะมีประสบการณ์ นั้นมันคุ้มค่ามากๆ กว่าเรามานั่งลองผิดลองถูกเหมือนผมแต่ผมอาศัยการดู และฝึกเองทุกวัน เพื่อจะมี ความรู้ บอกเลยว่าเหนื่อยแต่เราเพิ่มศักยภาพให้กับตัวเอง คำเดียวคือ ต้องขยันและมีความฝัน สุดท้ายก็ได้ไปทำงาน บริษัทเกี่ยวกับ เฟอร์นิเจอร์ดีไซน์ เงินเดือนตอนนั้น Start ที่ 7,500 บ.ได้ โอทีอีกต่างหาก รวมๆแล้วเทียบกับวุฒิป.ตรีเลย และได้ทำงานเขียนแบบ ออกแบบ ทำไปได้ไม่กี่เดือนก็ออก เพราะในเวลา 3 เดือน เราได้เป็น 14,000 บ. ใครจะไม่ออกละ ไปอีกทีทำเขียนแบบ วิศวกรรม ซึ่งตอนนั้นเราก็ยังเด็กและยัง อยากหาประสบการณ์หลายๆ แบบ หลายๆ ที่ เงินเดือนสูงๆ อีกทั้งยังรับงานนอกจากรุ่นพี่อีก เวลาว่า ๆ ไปรับสอนในสถาบันต่างๆ ได้สอนทั้งส่วนตัว และเป็นกลุ่ม ตั้งแต่ 10-100 คน ซึ่งสอนตั้งแต่ เด็ก 12-13 ถึง 60ปี ขึ้นรถ ลงเรือ โหน รถเมล์ ทุกอย่างลำบากมากแต่ก็สุขใจ ซึ่งเรามีความสุขกับสิ่งที่เราให้ และทำงานในด้านที่เรารัก และตอนนั้นเราแค่อายุ 18 แต่เราสอนให้ บางคน ที่ไม่มีงานทำ ได้งานทำ สอนผู้ใหญ่ในองค์กรต่างๆ ให้เขียนแบบได้ สอนรุ่นน้อง, เพื่อนให้ทำงานได้ เรากลับรู้สึกรักและชอบ นั่นคือ ของขวัญชิ้นที่ 4 ของชีวิต
……………………………………………………….……………………….
เมื่อวุฒิเรามันน้อย แต่เงินเดือนสูง ตอนนั้น 30,000 สำหรับเด็ก 18 และุวุฒิ ปวช 3 บอกเลยว่ามาก แต่ด้วยคุณวุฒิเราสู่คน จบปริญญา ตรีไม่ได้จึงตัดสินใจลาออก!! ทิ้งเงินทั้งหมดเข้าสู่ระบบการศึกษา
……………………………………………………….……………………….
แล้วก็สอบเข้าเรียนมหาวิทยาลัยเอกชน เพราะไม่สามารถไปแข่งกับคนที่จบม.ปลายได้ และความโชคดีที่ได้เรียนที่นี่ได้เรียนคณะ สถาปัตยกรรมศาสตร์ ม.ศรีปทุม (บอกเลยที่นี่ต้องสอบเข้าและบางคนก็ไม่ได้เรียน) ซึ่งโชคดีของผมที่ได้ได้เรียนในสิ่งที่ชอบอีกครั้ง ได้เจออาจารย์ให้ความรู้ในการสอน คำปรึกษาได้ดีมาก ได้เจอสถาปนิกจากบริษัทชั้นนำของประเทศมาสอน ได้ฝึกงานที่ A49 เจอพี่พี่ที่ดี สุดท้ายผมก็คว้า "เกียรตินิยมอันดับ 1" นี่เป็นของขวัญชิ้นที่ 5ของชีวิต มาได้โดยไม่ได้ตั้งใจ แต่ได้เพราะความตั้งใจใน
ทำ Project ทำงานเรียนในคณะเช่น วิชาออกแบบ Design กับ Construction เราถึงทำมันอย่างมีความสุขและทำมันได้ดี
……………………………………………………….……………………….
เมื่อเรียนจบตอน อายุ 23 ปี ก็ได้เข้าเรียนต่อปริญญาโท คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ม.ศิลปากร และได้ทำงานออกแบบสถาปัตย์ รวมถึง เป็นอาจารย์พิเศษสอนที่สถาบัน Netdesign ซึ่งถือว่าโชคดีอีกครั้งที่มีโอกาสได้ เป็นอาจารย์หัวหน้า หลักสูตรคนแรกและคนเดียว ที่ เขียนหลักสูตร วางแผน การเรียนการสอนด้านสถาปัตย์ให้กับทางสถาบันมากว่า 9 ปี ซึ่งถือว่าเป็นของขวัญชิ้นที่ 6 ของชีวิตา
……………………………………………………….……………………….
และซึ่งตอนนั้นได้งานออกแบบบ้านระดับ 50ล้าน ชิ้นแรกของชีวิตและทำมันด้วยมือของเราเอง เหตุผลง่ายๆ คือ ลูกค้าเห็นภาพที่เรา ออกแบบเป็นภาพ 3 มิติ และชอบมันมาก (ซึ่งตอนนั้นบอกเลยว่าน้อยคนจะทำมันได้) นี่คือ ของขวัญชิ้นที่ 7 ของชีวิต ที่ทำให้ได้รับ ประสบการณ์ทั้งด้านออกแบบและก่อสร้างทุกๆอย่างก็ว่า เพราะเราทำเองคนเดียว ไม่รู้ก็ลุยทำ เพื่อให้ได้รู้ ไม่เคย ก็ต้องลองผิดลองถูก แต่โอกาสมาถึงก็ต้องไขว้คว้าไว้ อีกทั้งได้ไปสอนตามองค์กรต่างๆ
……………………………………………………….……………………….
จนณ.วันนึง ก็เรียนจบป.โท ด้วย วิทยานิพนธ์ระดับดีเยี่ยม (Excellent) และ ของขวัญชิ้นที่ 8 ของชีวิต ก็ตามมาเราก็ใช้คุณวุฒิเชิญ ไปบรรยายและ อาจารย์พิเศษทั้งมหาวิทยาลัย ของรัฐ และเอกชนเรื่อยๆ มา
……………………………………………………….……………………….
สุดท้ายเมื่อถึงเวลาที่เราต้องเลือกทำอะไรซักอย่างเพื่ออนาคตและเพื่อความเป็นอิสระด้านความคิด ปี 2554 จึงเปิดสถาบันอบรมคอมพิวเตอร์เพื่องานออกแบบซีจีดีไซน์ เป็นของขวัญชิ้นที่ 9 ของชีวิตเพื่อสนองความต้องการของตัวเองและร่วม กับอาจารย์ที่เก่งด้านอื่นๆ ร่วมมาทำงานที่เรารัก และคิดค้น หาวิธีสร้างหลักสูตรพัฒนาหลักสูตรเองได้อย่างต่อเนื่องและจากระยะเวลาที่ ผ่านมาเรา ค้นพบว่าเรา หลงรักการสอน การคิด การวางแผนเพื่อให้ นักเรียนที่เข้ามาเรียนได้ความรู้แบบเร็ว และง่าย ไม่ต้องจำเยอะ แต่ เอาไปทำงานได้ มันคือ Shortcutทางลัดที่เราต้องคิดอยู่ตลอดเวลา ปรับอยู่ตลอด อีกทั้งยังได้ทำงานออกแบบที่เรารัก ได้มีเวลาคิดมาก ขึ้น มีเวลามากขึ้นและยังได้ไปสอนมหาวิทยาลัยต่างๆ โดยนำความรู้ที่ไม่ใช่วิชาการ แต่เป็นวิชาชีพที่ออกมาสู่โลกของความจริง ต้องใช้ จึงเป็นของ ขวัญที่ยิ่งใหญ่แห่งชีวิต เพราะนอกจากตัวเราจะมีความสุขแล้ว ยังสามารถพัฒนาสายอาชีพ ดูแลตัวเอง และคนรอบข้างได้ เหนือสิ่งอื่นใด งานที่เราทำอยู่นั้น ยังเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติด้วย แล้วเพราะอะไรเราถึงจะไม่เรียกปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นว่า “ของขวัญแห่งชีวิต”
……………………………………………………….……………………….
ของขวัญทิ่ยิ่งใหญ่แห่งชีวิต คือ เราเริ่มต้นมาจากศูนย์จนได้มี ได้ทำ ทุกอย่างอย่างที่ฝัน ไม่ได้มีเหนือใครๆ แต่สิ่งที่ทำคือ เหนือกว่า ที่เคยมี และสิ่งที่สำคัญ คือเราสามารถนำวิชาความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์มาสอนลูกศิษย์ได้มีงานทำ ได้ประกอบอาชีพ ได้พึ่งพา ตัวเอง ไม่ต้องยืมจมูกคนอื่นหายใจและทำงานได้อย่างมีคุณภาพ และภาคภูมิใจที่เราได้นำวิชาชีพมาออกแบบบ้านให้คุณแม่และสร้างให้ แม่อยู่อย่างมี ความสุขสบายให้บั่นปลายของชีวิตและเป็นสิ่งที่เราทุ่มเทให้กับคนที่เรารัก ความสุขเหนือสิ่งอื่นใดคือ ความสุขที่ทำให้ ทุกคนมีความสุข การให้แล้วคนอื่นได้รับ คนอื่นจะรู้หรือไม่รู้แต่คนที่รู้คือตัวเองนั่นสำคัญที่สุด
……………………………………………………….……………………….
สุดท้ายขอให้ทุกคนได้ของขวัญที่ยิ่งใหญ่แห่งชีวิตกันทุกคนนะครับ
……………………………………………………….……………………….
ประวัติผู้บริหาร
ชื่อ-นามสกุล : คุณรณกฤต ชั้นแจ่ม (อ.เอก)
ตำแหน่ง/องค์กร : Founder & President of Cgdesign
(ผู้ก่อตั้ง และกรรมการผู้จัดการ Cgdesign)
- สถาปนิก, 3D Visualizer & Animator
- อาจารย์พิเศษ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์, วิศวกรรมศาสตร์และศิลปกรรมศาสตร์ ในมหาวิทยาลัยของรัฐและเอกชน
- อาจารย์ CG Design หลักสูตร Architecture & Interior design
- ประสบการณ์ในการทำงานมากกว่า 15 ปี และสอนโปรแกรมมากกว่า 1,000 รุ่น นร. มากกว่า 10,000 คนขึ้นไป
……………………………………………………….……………………….
การศึกษา
- ปริญญาโท สถาปัตยกรรมศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาสถาปัตยกรรม
มหาวิทยาลัยศิลปากร (Master of Architecture) (เกรดเฉลี่ย3.90)
วิทยานิพนธ์ระดับดีเยี่ยม (Excellent)
- ปริญญาตรี สถาปัตยกรรมศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาสถาปัตยกรรม
มหาวิทยาลัยศรีปทุม (Bachelor of Architecture) เกียรตินิยม อันดับ 1
……………………………………………………….……………………….
ประสบการณ์การทำงาน
- สถาปนิกอิสระ และ 3D Visualizer เช่น บ. พฤกษาเรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) , บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) , บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ พาร์ทเนอร์ จำกัด, บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) , บริษัท ปทุมดีไซน์ดีเวลล็อปเม้นท์ จำกัด, บริษัท ควอลิตี้เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ฯลฯ
- วิทยากรพิเศษ อบรมด้านการออกแบบเขียนแบบตามหน่วยงานและมหาวิทยาลัยของรัฐบาลและเอกชน เช่น บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด มหาชน, การไฟฟ้านครหลวง,
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย, กรมโยธาธิการและผังเมือง , บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน),บริษัท เอส.บี.เฟอร์นิเจอร์ จำกัด ฯลฯ
- อาจารย์พิเศษ วิชาคอมพิวเตอร์เพื่องานออกแบบและเขียนแบบคณะวิศวกรรมและสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย
- อาจารย์ผู้ก่อตั้งและเขียนหลักสูตร 2D - 3D Architecture with AutoCAD, 3Dmax ที่ Netdesign
- ผู้เขียนหนังสือ Professional 2D Architecture with AutoCAD ISBN : 978-646-7379-26-5
- อาจารย์และวิทยากรพิเศษ วิชาคอมพิวเตอร์เพื่อการออกแบบสถาปัตยกรรม AutoCAD, 3ds Max, Vray, Sketch UP, Revit, Lumion, Photoshop, IIIustrator มากกว่า 15 ปี มหาวิทยาลัยของรัฐและเอกชน
- Furniture Designer & DraftMan : บ.เว็ลม่าเฟอร์นิเทค จำกัด, บ.เอเชี่ยน เอ็นจิเนียริ่ง คอนซัลแต้นส์ จำกัด
- บริษัท สถาปนิก 49 จำกัด , บริษัท แปลน แอสโซซิเอทส์ จำกัด Co.,ltd (Process Internship)
……………………………………………………….……………………….
ติดต่อ อ.เอก Tel. 080-569-5699
Email : AKECGDESIGN@GMAIL.COM
FACEBOOK : https://www.facebook.com/ake.cgdesign